ชนิดของลูกกอล์ฟ
ลูกกอล์ฟแบ่งตามโครงสร้างออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. Wound ball คือ ลูกกอล์ฟที่มียางพันรอบๆ แกนกลาง วัสดุที่เป็นแกนกลางมี 2 ประเภทคือ
1.1 แกนกลางที่เป็นของเหลว (liquid center) ทำมาจากสารแขวนลอยของ barites, bentonite ที่ละลายน้ำและ glycerin ที่รวมกันอยู่ในถุง
ที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติและมัดจนแน่น
1.2 แกนกลางที่เป็นของแข็ง (solid center) ทำจากยางสังเคราะห์ โดยยางสังเคราะห์ที่นิยมาใช้คือยาง BR หรือยางบิวตะไดอีน
วัสดุเปลือกหุ้มเป็น balata หรือ surlyn สมบัติของลูกกอล์ฟ wound ball ค่อนข้างอ่อนนุ่มและหมุนได้ดีมากกว่า แต่ตีไม่ได้ระยะไกลเท่าที่ควร และสมบัติต่างๆ เสื่อมเร็ว และไวต่ออุณหภูมิ คือ จะสูญเสียระยะการตีเมื่ออุณหภูมิต่ำ (ต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส)
ปัจจุบันความนิยมลูกกอล์ฟ wound ball ลดลงเรื่อยๆ หลังจากที่มีการคิดค้นลูกกอล์ฟแบบอื่นที่สามารถตีได้ระยะไกลกว่า
2. Solid ball คือ ลูกกอล์ฟที่แกนกลางทำจากยาง ทำให้ลูกกอล์ฟกระเด้งได้ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
2.1 One-piece ball คือ ลูกกอล์ฟที่มีโครงสร้างชิ้นเดียว ทำจากยางสังเคราะห์ โดยยางสังเคราะห์ที่นิยมาใช้คือยาง BR หรือยางบิวตะไดอีน เมื่อได้รับแรงอัดสูง
ก็จะเกิดการผิดรูปสูญเสียพลังงานในการบังคับขณะเคลื่อนที่ และทำให้เคลื่อนที่ได้ระยะไม่ไกลเมื่อเทียบกับลูกกอล์ฟโครงสร้างแบบอื่นๆ
2.2 Two-piece ball คือ ลูกกอล์ฟที่ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นเปลือกหุ้ม และส่วนที่เป็นแกนกลาง มีข้อดีคือ แกนกลางแข็ง และวัสดุที่นำมาใช้ทำแกนใน
ปัจจุบันมีสมบัติที่ดี ทำให้การกระเด้งสูงและพุ่งออกไปได้ไกล ส่วนเปลือกหุ้มเป็นวัสดุอ่อนนุ่มทำให้ลูกกอล์ฟสามารถหมุนได้เพียงพอ และเมื่อตกลงถึงพื้น
จะหยุดนิ่ง
2.3 Multi-layer ball คือ ลูกกอล์ฟที่มีแกนกลางถูกหุ้มในเปลือกหลายชั้น ถูกออกแบบให้มีชั้นที่อยู่ระหว่างเปลือกหุ้มกับแกนกลางที่เรียกว่า middle layer
โดยใช้วัสดุที่มีความอ่อนนุ่ม ความแข็ง และความหนาแน่นของวัสดุที่ไม่เท่ากันในแต่ละชั้นมาเป็นลูกเล่นในการออกแบบ ทำให้ลูกกอล์ฟสามารถตีได้ในระยะไกล
และเมื่อตกถึงพื้นจะหยุดนิ่ง ลูกกอล์ฟประเภทนี้มีหลายแบบ เช่น 3-piece golf ball และ 4-piece gold ball